คณะกรรมการบริษัทเห็นประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมในการยึดหลักบรรษัทภิบาลเป็นหลักในการบริหารธุรกิจ เนื่องจากเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมทั้งต่อสังคม และประเทศชาติเพื่อประโยชน์อันยั่งยืนร่วมกันสืบไป การประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2556 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ประชุมจึงได้มีมติอนุมัติหลักจรรยาบรรณธุรกิจ และข้อพึงปฏิบัติทางจริยธรรมของผู้บริหารและพนักงานของบริษัท
หลักบรรษัทภิบาลที่สำคัญที่คณะกรรมการบริษัทยึดถือ และเห็นควรส่งเสริมให้ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทมีความรู้ ความเข้าใจในแนวนโยบายดังกล่าว ประกอบด้วย 6 ประการ ดังนี้
1. การปฏิบัติต่อผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างยุติธรรม
มุ่งปฏิบัติต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย อาทิ ลูกค้า ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของกิจการ พนักงาน เจ้าหนี้ รัฐบาล และสังคมโดยรวมอย่างยุติธรรม นอกจากนี้ บริษัทต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันระหว่างผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของกิจการ ทุกราย ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่หรือรายเล็ก หรือชนชาติใด เพราะผู้ถือหุ้นทุกรายล้วนมีความสำคัญต่อบริษัททั้งสิ้น
2. การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้
ความเชื่อมั่นของนักลงทุน เจ้าหนี้ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เกิดจากความโปร่งใสในการดำเนินงานของบริษัทที่สามารถตรวจสอบได้รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน และทันกาลให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลที่เปิดเผยต้องมีความสม่ำเสมอ ได้รับการจัดทำและบันทึกด้วยหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นมาตรฐานสามารถเปรียบเทียบกับข้อมูลจากแหล่งอื่นได้
3. การลดความเสี่ยง
แม้ว่าบริษัทจะมีการกำหนดวัตถุประสงค์ไว้อย่างชัดเจน และมีการวางแผนการปฏิบัติตลอดจนกำหนดกระบวนการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานไว้อย่างรัดกุมแล้ว แต่ก็ยังคงต้องมีกระบวนการบริหารความเสี่ยงและการถือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ โดยวิเคราะห์ความเสี่ยงของการดำเนินธุรกิจ แล้วกำหนดระดับความสำคัญของความเสี่ยง มาตรการควบคุม และขั้นตอนการปฏิบัติอย่างเข้มงวด เพื่อลดอัตราความเสียงให้เหลือน้อยที่สุด
4. มุ่งส่งเสริมหลักการปฏิบัติอันเป็นเลิศในองค์กร
มุ่งนำการปฏิบัติอันเป็นเลิศ ซึ่งใช้ได้ผลดีมาแล้วจากหน่วยงานอื่น ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพของบริษัท นอกจากนี้ยังคงต้องส่งเสริมการปฏิบัติอันเป็นเลิศแก่บุคลากรทุกฝ่าย โดยผลักดันทุกหน่วยงานให้พยายามพัฒนาตนเองเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศอยู่ตลอดเวลา
5. การให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่เจ้าของกิจการหรือผู้ถือหุ้น
บริษัทควรตระหนักถึงการสร้างมูลค่าขององค์กรในระยะยาวไม่คำนึงแต่ผลงานระยะสั้น รวมทั้งมีการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง อันหมายถึงความเพียรพยายาม ที่จะให้เจ้าของกิจการหรือผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอและยั่งยืน
6. ความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ
ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและประเทศชาติ บริษัทควรคืนกำไรสู่สังคมผ่านกิจกรรมสาธารณกุศล ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ตลอดจนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสภาพแวดล้อม และสนับสนุนกิจกรรมใด ๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อประเทศชาติอย่างเป็นรูปธรรม
ด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทจึงต้องมีหน้าที่กำกับดูแลฝ่ายจัดการ และฝ่ายจัดการต้องมีหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานของฝ่ายต่าง ๆ อีกชั้นหนึ่ง
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการกำกับดูแลที่ดีตามหลักบรรษัทภิบาลดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทจึงเห็นควรส่งเสริมให้มีข้อพึงปฏิบัติทางจริยธรรมสำหรับผู้บริหาร และพนักงาน เพื่อเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติอันดีงามต่อไป
1. ข้อพึงปฏิบัติทั่วไป
2. ข้อพึงปฏิบัติของผู้บริหาร
ในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้บริหารของบริษัท นอกจากข้อพึงปฏิบัติทั่วไปที่พึงยึดถือปฏิบัติแล้ว ผู้บริหารควรมีข้อพึงปฏิบัติเพิ่มเติม ดังนี้
3. ข้อพึงปฏิบัติระหว่างพนักงาน
ในการปฏิบัติงานในฐานะของพนักงานนอกจากข้อพึงปฏิบัติทั่วไปข้างต้นที่ยึดถือแล้ว พนักงานต้องปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงาน ตามข้อพึงปฏิบัติ ดังต่อไปนี้